บจก.เจริญพรอินเตอร์กรุ๊ป ประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลี (21 รูป)
https://charoenpornintergroup.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5.html#sigFreeId6e8180e1b2
ติดตั้ง ประตู รั้วเหล็กอิตาลีแท้ ติดต่อ บจก.เจริญพรอินเตอร์กรุ๊ป
โทร. 086-309-9988 , 085-813-4444
เหล็กดัดอิตาลี (wrought iron)
เหล็กดัดอิตาลี (wrought iron)ทำมาจากอะไร
-เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) ทำมาจากเหล็กที่มีส่วนประกอบของคาร์บอนต่ำมากซึ่งสามารถหลอม และหลอมอีกและยังสามารถตีจากสภาพที่เป็นก้อนได้ เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) ไม่เหมือนเหล็กหล่อ ( Cast Iron ) ซึ่งไม่แตกบิ่นง่าย ความสามารถในการดัดโค้งและถูกเชื่อมได้ง่ายมาก ดังนั้นเหล็กดัดอิตาลี (wrought iron) จึงถูกใช้สำหรับงานศิลปะที่ต้องการความละเอียดและความยุ่งยากของลายเส้นเหล็ก
-การใช้เหล็กดัดอิตาลี (wrought iron) สำหรับงานศิลปะที่เป็นส่วนประกอบและตกแต่งนั้นต้องการทักษะและศิลปะของช่างอย่างสูง ซึ่งเหตุผลนี้เองทำให้ช่างเหล็กนั้นได้รับความยกย่องและยอมรับความสามารถในการดัดเหล็กซึ่งแข็งไปตามลวดลายเส้นของสิ่งที่ต้องการ เขาเองยังได้รับการประพฤติเยี่ยงเขาเป็นผู้วิเศษซึ่งความสามารถพิเศษในการใช้ไฟและน้ำในการเปลี่ยนแร่ธาตุ ( เหมือนการเล่นแปรธาตุ ) จากความสามารถควบคุมแปรความแข็งแกร่งของเหล็กเป็นตามที่เขาต้องการได้ดังผู้วิเศษเขาจึงได้รับการยอมรับในสังคมอยู่ในระดับเดียวกับหมอและนักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้น
- ส่วนสำคัญของการพัฒนาในระยะเวลานี้ คือ ภาพวาดและสถาปัตยกรรมมีการใช้ในแบบ perspective หรือ ภาพมีมิตินั่นเองอย่างสมบูรณ์ ศิลปกรและสถาปนิกเริ่มร่วมมือกับช่างเหล็กผู้ซึ่งถูกมองในฐานะระดับเดียวกับศิลปกรทั่วไป
- เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron) เป็นกรรมวิธีหนึ่งในการผลิตเหล็กเป็นเครื่องใช้ ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ในงานสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายใน ทำรั้ว ประตู หน้าต่าง ราวบันได ราวระเบียง โคมไฟ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ใช้งานในบ้านอื่นๆ เช่น ตะกร้าใส่ของ เชิงเทียน เป็นต้น
ลักษณะงานของ เหล็กดัดอิตาลี (wrought iron)
- เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) จะมีความใกล้เคียงกับ งานเหล็กหล่อ ( cast iron ) คือมีความสวยงามอ่อนช้อย จนแทบไม่น่าเชื่อว่าทำขึ้นจากกรรมวิธีการเผาเหล็กให้ร้อน และตีให้เกิดเป็นรูปร่างขึ้น เหมือนกับการตีมีดของ ชาวอรัญญิก ในขณะที่เหล็กหล่อเป็นการหลอมเนื้อเหล็กให้เหลว และเทลงแม่พิมพ์
- งาน เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) เป็นงานที่ต้องอาศัยความเป็นช่างผู้มีฝีมือ และความสามารถ ในทางศิลปะส่วนบุคคล ผู้ทำงานจะเป็นทั้งผู้ออกแบบ และลงมือทำพร้อมกัน ช่างฝีมือแต่ละคน จะมีเอกลักษณ์ในการทำงาน แตกต่างกันออกไปและ มักถ่ายทอดเทคนิค ในการทำผ่านทาง ลูกหลานของตน เท่านั้น อันเป็นผลให้งาน เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) นั้นยังไม่มีวัสดุใดที่สามารถ ทำให้เกิดความงามได้ดีเท่า
- วัตถุดิบที่นำมาใช้ในงานเหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) จะใช้เหล็กชนิดที่เรียกกันว่า โลว์ คาร์บอน ( Low Carbon ) คือ มีส่วนประกอบของคาร์บอนโดยประมาณ 0.04 เปอร์เซ็นต์ และผ่านกระบวนการถลุงเหล็ก ที่ดึงเอาออกซิเจนในเนื้อเหล็กให้เหลือน้อยที่สุด จึงช่วยให้เหล็กไม่เป็นสนิมได้ง่าย เนื้อเหล็กจะมีสีเทาอ่อน มีความเหนียวและสามารถตี หรือดัดโค้งได้ดี แข็งแกร่งกว่าโลหะชนิดอื่นที่นำมาใช้งานแบบเดียวกัน
- เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron ) จะมีส่วนผสมของคาร์บอนน้อยมาก ในขณะนั้น ชาวตะวันออกกลางได้ค้นพบวิธีการที่ทำให้เหล็กนั้นแข็งโดยการเพิ่มเวลาในการเผาเหล็กให้นานมากขึ้น หลังจากนั้นจุ่มลงในน้ำหรือน้ำมัน สิ่งที่ได้รับ คือ ผิวของเหล็กนั้นจะแข็งแกร่งและไม่บิ่นง่ายเหมือนทองแดง ดังนั้น เหล็กจึงขึ้นมาแทนที่ทองแดงตั้งแต่นั้นมา
ประวัติศาสตร์เหล็กดัดอิตาลี ( wrought iron )
- เหล็กดัดอิตาลี(wrought iron) กำเนิดประมาณศตวรรษที่ 11 ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะ ในประเทศ อิตาลี เยอรมัน สเปน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งกล่าวได้ว่าประเทศเหล่านี้เป็นต้นตำรับ และเป็นแหล่งที่งานเหล็กชนิดนี้แพร่หลายที่สุด
- ในสมัยแรกเริ่มนั้น ช่างเหล็กจะถูกใช้งานไปในแง่ของผู้ผลิตอาวุธ แต่เมื่อถึงสมัยโรมันนั้น ช่างเหล็กถูกใช้งานเพิ่มขึ้นในการผลิตเครื่องใช้มากขึ้น อาทิเช่น เหล็กเคาะประตู (door knocks) ที่ล็อคประตู ( door locks ) บานพับ ( hinges ) และเครื่องมือสำหรับงานบ้านและการเกษตร